สายหนอนอย่างเรา ไม่ว่าจะเป็นหนอนน้อยหรือหนอนใหญ่ ก็ไม่ควรพลาด เพราะวันนี้เราจะจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ว่าในที่สุด วันนี้คือวันที่เราชาวหนอนได้มาเห็นแสงสว่าง ณ ปลายทางไปด้วยกัน กับการเปิดตัวที่เรียกได้ว่าเป็นกระแสกันอย่างรุนแรงบน Social กันมาก ณ ตอนนี้ กับ Canon EOS R กล้อง Mirrorless Full Frame ตัวแรกของแคนนอน และเลนส์ตระกูล RF ถึง 4 ตัวนั่นเอง (ซึ่งนี่ยังไม่รวมไปถึง RF Mount Adapter แบตเตอรี่กริปตัวเฉพาะของ EOS R และแฟลชเสริมอย่าง Speedlite ตัวใหม่)

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาลงกันในส่วนของ Spec และคุณสมบัติเด่น ๆ ของกล้องที่หลาย ๆ คนรอคอยกันดีกว่า

กล้อง : กล้อง Mirrorless ชนิดถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ ซึ่งตัวกล้องเองได้ถูกผลิตขึ้นมาจาก Magnesium Alloy ซึ่งมีความทนทานพร้อมซีลกันละอองน้ำและฝุ่น
เมาท์ : Canon RF -mount (Compatible with RF Lenses and EF/EF-S Lenses)
เซ็นเซอร์ : CMOS ชนิด Full frame (36 x 24 mm) ความละเอียด 30.3 ล้านพิกเซล
ชิปประมวลผลภาพ : DIGIC 8
ความไวแสง : Auto, iso 100-40000 (ขยายได้ที่ iso 50-102400)
จอแสดงผล : TFT LCD ขนาด 3.2″ ทัชสกรีน ความละเอียด 2,100,000 จุด ปรับมุมมองอิสระ
ช่องมองภาพ : EVF (OLED) อัตราขยาย 0.76× ความละเอียด 3,690,000 จุด แสดงผลภาพ 100% (Vari-angle) เด่นชัดในเรื่องของความสะดวกสบายในการถ่ายจากหลายหลายมุม โดยที่หน้าจอ Touch Screen สามารถปรับหมุดได้
โฟกัส : Auto Focus 5,655 จุด (Coverage; Portrait:100%, Landscape:88%), MF Peaking, มี Eye Detection AF, เร็วถึง 0.05 วินาทีด้วย Dual Pixel CMOS AF, และยังสามารถทำการโฟกัสในที่แสงน้อยได้ถึง EV -6
ความเร็วชัตเตอร์ : 30-1/8000 วินาที สัมพันธ์แฟลชที่ 1/200 วินาที, รองรับ Silent Shutter
ถ่ายภาพต่อเนื่อง : 8fps
วิดีโอ : 4K/30p ฟอร์แมท MPEG-4, H.264 (3840 x 2160 พิกเซล), รองรับ Canon Log
เมมโมรี่การ์ด : SD card (รองรับ UHS-II)
ไมโครโฟน : สเตอริโอในตัวกล้อง
ลำโพง : โมโนในตัวกล้อง
พอร์ต : USB 3.1 Gen 1 (in-camera charging support) , Mini HDMI
เชื่อมต่อ : Wi-Fi, Bluetooth (easy sharing to compatible smart devices and social media sites)
แบตเตอรี่ : LP-E6N lithium-ion ถ่ายภาพได้ 370 ภาพ, ในส่วนของกริปเสริมนั้นได้ถูกออกแบบมาให้กระชับและใช้งานได้สะดวกขึ้น
ขนาด : 136 x 98 x 84 มม. (5.35 x 3.86 x 3.31″)
น้ำหนัก : 660 กรัม รวมแบตเตอรี่

(ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก dpreview.com และ Fotoinfo และ 2How และ th.canon และ Canon)

สำหรับหลาย ๆ คนที่ที่อยากจะลองเล่นไปกับผลผลิตของของเจ้ากล้อง EOS R ตัวนี้ (หรือที่เรารู้จักกันว่าไฟล์ภาพนั่นเอง) ก็ไม่ต้องรอคอยกันอีกต่อไปนะครับ เพราะว่า ณ ปัจจุบัน ทาง Canon Global เองก็ได้ปล่อย ภาพตัวอย่างที่ถ่ายจาก EOS R ให้สามารถดาวน์โหลดไปลองเล่นกันได้แล้ว (จะบอกว่าถ่ายจากเลนส์รุ่นล่าสุดกันทั้งนั้นเลย แถมมีไฟล์วิดีโอด้วยนะ) ลายแทงดาวน์โหลดภาพและวิดีโอตัวอย่างของ Canon EOS R 
https://global.canon/en/imaging/eosd/samples/eosr/index.html

และนี่คือตัวอย่างที่ผมเองได้ลองดาวโหลดไฟล์มาแต่งเล่นดูแล้ว

Canon EOS R
RF50mm F1.2 L USM
1/160 sec at f/1.2, ISO 100

Canon EOS R
EF600mm f/4L IS III USM + 1.4x III
1/1000 sec at f/5.6, ISO 3200

Canon EOS R
RF35mm F1.8 MACRO IS STM
1/125 sec at f/8.0, ISO 100

Canon EOS R
EF100-400mm f/4.5-5.6L IS II USM
1/1000 sec at f/5.0, ISO 100

Canon EOS R
RF50mm F1.2 L USM
1.0 sec at f/2.5, ISO 100

Canon EOS R
RF35mm F1.8 MACRO IS STM
1/125 sec at f/4.0, ISO 100

แค่ JPEG ยังมาสนุกได้ขนาดนี้ แล้วถ้าได้ลองในส่วนของ RAW จะขนาดไหน (น่าสนใจมากครับ)

เรื่องสุดท้าย (แต่ก็ยังคงไม่ท้ายสุด) ที่หลาย ๆ คนอยากจะทราบกันนั่นก็คงหนีไม่พ้นเรื่องราคา อ้างอิงจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Canon EOS R ราคา Body อย่างเดียว ณ ปัจจุบันได้ ระบุไว้ที่ $2299 ซึ่ง ณ จุดนี้ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าราคาในไทยนั้นจะอยู่ที่เท่าไหร่ (อย่าลืมนะบ้านเรามีเนื่องภาษีด้วย) และท้ายสุด (อันนี้ท้ายจริง ๆ ละครับ) ข่าวจากงานเปิดตัวได้กล่าวไว้ว่าจะเริ่มว่างจำหน่ายในช่วงของเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งผมเองส่วนตัวแล้วก็หวังว่าจะได้ลองในช่วงงาน Photo Fair 2018 ณ ช่วงปลายปีนี้กับหลาย ๆ คนที่สนใจนะครับ

แถมภาพตัวจริงอีกสักนิด โดย Sam Byford จาก The Verge