สวัสดีครับ สมมุตินะ ถ้าวันหนึ่งคุณมีความรู้สึกว่า“อยากได้กล้องใหม่”ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมอยากให้ลองพิจารณาตามต่อไปนี้นะครับ 

  1. เงินไม่สามารถแก้ได้ทุกปัญหา แต่ไฟความอยากย่อมสามารถดับได้ด้วยเงิน(ชั่วคราว)

    ลองหยิบมือถือขึ้นมาครับ หรือไม่ก็ลองเปิดสมุดบัญชีดูก็ได้ เข้าไปดูในบัญชีของเรา ไปดูจำนวนตัวเลขเงินเก็บของเรา และตอบตัวเองหน่อยว่า มีพอไหม หรือต้องเก็บอีกสักเท่าไหร่ และถ้าเราต้องใช้เงินตรงนี้แล้ว มันจะมีผลกระทบกับเราในด้านไหนบ้าง แบบว่าเราต้องกินมาม่าหรือเปล่า หรือหลังจากการใช้ตังก้อนนี้ไปแล้วเราต้องอดมื้อกินมื้อ
     
  2. พิจารณากรใช้งาน ตามความจริง



    การลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนกลับคืนมาย่อมดีกว่าไม่ได้เลย ... เป็นเรื่องปกติครับ ที่เราอยากได้ของดี ๆ กัน ซึ่งส่วนตัวผมเองก็เข้าใจ (เพราะผมเองก็เป็น)แต่เราควรที่จะพิจารณากันนะครับว่าเจ้ากล้องใหม่ที่เราอยากจะได้นั้น เราต้องการมันมาทำอะไรบ้าง เพราะถ้าแค่จะเอาไปเที่ยว ทนฝนบ้าง ถ่ายรูปแฟนหน่อย พกพาง่าย ไม่หนักจนเกินไป ซึ่งถ้าตามนี้แล้วก็ควรที่จะเป็นรุ่นที่ตอบโจทย์ความต้องการดั่งเมื่อกี่นี้ ถามว่าเราไปตัวใหญ่ ที่ดีกว่าแล้วมันจะดีรึเปล่า ซึ่งตรงนี้ก็ต้องมาพิจารณาตามความเป็นจริงกันดูครับ ถ้าสุดท้ายแล้วมันไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานจริง ใช้แล้วแฟนบ่นเพราะถ่ายนางไม่เร็วพอ กล้องหนักเกินไปทำให้การพกพายาก รวม ๆ แล้วก็อาจจะไม่สุขสักเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นแล้ว ไปใช้ที่มันตอบโจทย์แล้วมีความสุขก็ต้องดีกว่าใช่ไหมครับ 
     
  3. กล้องนะไหว แล้วคอมคุณไหวหรือเปล่า 



    เทคโนโลยีทุกวันนี้ต้องยอมรับเลยครับว่า เติบโตกันได้อย่างรวดเร็วเหลือเกิน ซึ่งในหลาย ๆ ครั้ง ส่วนตัวผมเองแล้ว ผมก็ต้องพูดว่าผมตามไม่ทันแล้ว จำได้ว่าตั้งแต่สมัยเริ่ม ๆ ถ่ายรูปช่วงแรก ๆ นั้นการจัดเก็บไฟล์ภาพไม่ได้กินเนื้อที่รวดเร็วและเยอะเหมือนสมัยนี้(เราเองก็เข้าใจนะในส่วนของรายละเอียดของภาพที่เพิ่มมากขึ้นตามศักยภาพของกล้องตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป)ซึ่ง ณ​ ปัจจุบันแล้ว ก่อนจะเปลี่ยนกล้องก็ต้องถามตัวเองเหมือนกันว่า ถ้าเปลี่ยนแล้ว คอมเราเองยังจะไหวอยู่ไหม เพราะเนื้อภาพที่ดีขึ้นและหนักขึ้น ก็ต้องการฝีมือและศักยภาพที่ดีขึ้น เพื่อทำการปรับปรุงเช่นกัน เพราะถ้าคอมเราไม่ไหว มันอาจจะทำให้ภาพรวมในการทำงานเราแย่ลง ทำงานช้าลง และอื่น ๆ 
     
  4. ปัจจุบัน พอหรือยัง 



    คือมันจะไม่จบหลอกครับ นี่พูดกันแมน ๆ เลยนะ แต่ก็อย่างว่านะครับ มันมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณากัน ซึ่งหลัก ๆ แล้วก็จะเป็นตามสามข้อข้างบนที่ผมได้กล่าวไว้ และอีกหลากหลายปัจจัย ซึ่งแต่ละคนนั้นมีไม่เหมือนกัน(ก็ว่ากันไปตามรายบุคคล)ถ้าเป็นไปได้ ข้อสุดท้ายเลยที่อยากจะฝากกันไว้ และอาจจะกลายเป็นข้อเดียวที่ต้องถามตัวเองก็ได้ นั้นก็คือ “มันจะสุขไหม แล้วมันจะทุกข์หรือเปล่า” 
     

ลองคิดกันดูให้ดีนะครับ แล้วอย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุด นั้นก็คือ ผ.บ.ท.บ. (ผู้บัญชาการที่บ้าน) อิอิอิ