สวัสดีค่ะ วันนี้ก็มาต่อยอดในเรื่องของการถ่ายภาพ Pre-wedding นะคะ เชื่อว่าช่างภาพมืออาชีพหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้ว แต่วันนี้ขอมาแนะนำพื้นฐานสำหรับช่างภาพที่เริ่มต้นกันค่ะ

ใช้แสงธรรมชาติเข้าช่วย

          เราควรมีทักษะการถ่ายภาพในเรื่องของการใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติ เพราะว่าแสงธรรมชาติจะช่วยในการสร้างภาพที่น่าทึ่งได้ โดยอาจจะวางคู่รักไว้ด้านหน้าของแหล่งกำเนิดแสง ปรับค่าให้เหมาะสม แล้วจึงกดชัตเตอร์ เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด

 

หาพร็อพมาช่วยในการถ่ายภาพให้สวยงามยิ่งขึ้น

          พร็อพ คืออะไร พร็อพมาจากคำว่า Property เป็นอุปกรณ์ ใช้ในการประกอบฉาก ช่วยให้ภาพดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และส่วนใหญ่พร็อพที่มักจะนำมาใช้ในการถ่าย Pre-wedding มักจะเป็น ช่อดอกไม้ มงกุฏ ลูกโปร่ง แหวนแต่งงาน ฯลฯ รูปตัวอย่างด้านบน เราใช้ผ้าในการเป็นพร็อพโดยหามุมเส้นนำสายตา มาทำให้ภาพดูดี และมีความน่าดึงดูดมากขึ้น

 

สถานที่ก็มีส่วน

          ในการเลือกสถานที่ถ่าย Pre-wedding หลายคู่คงหนักใจเพราะถือเป็นส่วนประกอบของการจัดงานแต่งงานให้ออก มาสวยและเพอร์เฟคที่สุด และการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งมีเพียงแค่ครั้งเดียวในชีวิต มีความสวยงามที่ไม่เหมือนใคร และส่วนใหญ่อาจไม่มีงบประมาณมากที่จะไปไกล สิ่งที่คุณจะต้องคิดถึงคือความแมทกันของชุดที่ถ่าย สถานที่  และธีมถ่ายรูป การเลือกสถานที่เป็นการบอกให้ทุกคนรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนหรือผ่านเรื่องราวอะไรมาบ้าง จะเห็นได้ว่าหลายคนเลือกแลนด์มาร์คประจำจังหวัดของตัวเองเป็นที่ถ่ายรูปพรีเวดดิ้งยอดนิยม

 

การถ่ายภาพ Silhouette

          เป็นการถ่ายทอดความลึกลับ ด้านความรู้สึกและอารมณ์ในภาพ ภาพเงานี้จะถูกกำหนดให้เป็นมุมมองของวัตถุหรือฉากหลัง ประกอบด้วยโครงร่างและการตกแต่ง ที่ไร้เงาจะเป็นสีดำ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือ ก่อนที่พระอาทิตย์จะตก วิธีที่ง่ายที่สุดในการถ่ายภาพเงาคือการใช้ดวงอาทิตย์เป็นแสงพื้นหลังของคุณ การวางตำแหน่งของคุณไว้ข้างหน้าดวงอาทิตย์ จะทำให้ภาพเงาของคุณแข็งแกร่งขึ้น และปล่อยให้แสงแดดจางลงสู่พื้นหลังและให้สีท้องฟ้า คุณจะพบว่าแสงที่ดีที่สุดคือตอนพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก อุณหภูมิสีของแสงในช่วงเวลานี้ของวันที่อบอุ่น

 

การจบภาพหลังคอมพิวเตอร์

           ในยุคดิจิทัลนี้ เราสามารถใช้โปรแกรมซอฟต์แวร์ในการตกแต่งภาพ โดยโปรแกรมที่ตัดต่อนิยมใช้กันคือ Photoshop และ Lightroom ยังสามารถปรับแต่งรูปถ่ายได้ตามความต้องการอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ได้ภาพดูน่าสนใจยิ่งขึ้น และที่สำคัญในการถ่ายภาพก่อนเข้าโปรแกรม เราควรที่จะตั้งค่ากล้องโดยเลือกใช้ไฟล์ RAW เพราะด้วยคุณสมบัติของไฟล์สามารถปรับแต่งได้ดีกว่า JPEG ช่วยให้เราปรับแต่งแสงและความสมดุลของสีได้อย่างแท้จริง

 

          ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะคว้ากล้องขึ้นมาและออกหาสถานที่ ที่ดีด้วยแสงพื้นหลังที่เป็นธรรมชาติ ตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่ามีปรับการตั้งค่าเหมาะสม และอย่ากลัวที่จะลองมุมมองและองค์ประกอบที่แตกต่างกัน ทั้งหมดนี้เป็นเทคนิคที่อธิบายไว้ข้างต้น ลาก่อนแล้วพบกันในบทความถัดไปค่ะ