2018ได้ให้ข้อคิดอะไรบ้างกับการถ่ายภาพที่ผ่านมา และนี่คือ 5 ข้อคิดที่ผมอยากจะฝากต่อให้ทุก ๆ คนในวงการถ่ายภาพ

ให้ความสำคัญกับช่วงเวลาและจังหวะที่สำคัญ

มุมเดียวกัน อุปกรณ์เหมือนกัน ภาพย่อมไม่แตกต่างมาก แต่ถ้าอยากให้ภาพที่ได้ออกมานั้น แตกต่างตั้งแต่ตาเห็น เราก็ต้องมีความเข้าใจว่าปัจจัยอะไรนอกเหนือจากอุปกรณ์และมุมที่สร้างความแตกต่างและโดดเด่นได้ ซึ่งสำหรับผมแล้ว ก็คงไม่พ้นจังหวะ ณ ช่วงเวลาสำคัญที่ผมมองว่าสองสิ่งนี้คือที่ทำห้าภาพที่ได้นั้นโดดเด่นกว่าตั้งแต่ตาเห็น

การศึกษาวิธีการถ่าย จะช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความเป็นไปได้

ความเป็นช่างภาพคือเราใช้ทักษะ ความรู้และประสบการณ์ ในการบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับความรู้และทักษะ (ประสบการณ์คือผลของการเก็บเกี่ยวของสองสิ่งนี้)เราสามารถที่จะหามาเพิ่มเติมได้เรื่อย โดยไม่มีที่สิ้นสุด ผมเลยมองว่ามันมีความท้าทายในสายงานความเป็นช่างภาพ เพราะฉะนั้นการศึกษาแบบภาพที่เราต้องการที่จะถ่ายออกมาให้ได้นั้น คือค่อนข้างที่จะสำคัญมาก ๆ เพราะมันจะช่วยประหยัดเวลาหน้างาน ลดความล้มเหลวได้เป็นอย่างยิ่ง อีกอย่างเมื่อเราได้เห็นว่าสิ่งที่เราศึกษาและค้นคว้ามานั้น มันได้ให้ภาพตามแบบที่เราต้องการ ตรงนี้คือความรู้สึกดี ๆ และแรงผลักดันในตัวที่สามารถสร้างเองได้

การลงทุนเพื่องานที่ดีขึ้นมีความเสี่ยง แต่มันก็เป็นความเสี่ยงที่รับได้ และก็เป็นแรงพลักดันเช่นเดียวกัน

สิ่งที่ช่างภาพหลาย ๆ คนไม่สามารถที่จะขาดได้เลยนั้นคงเป็นในส่วนของอุปกรณ์การตกแต่งภาพ (นานาชนิด)ซึ่งนอกเหนือจากกล้องและเลนส์ที่ใช้ในการถ่ายภาพแล้ว คอมและเม้าก็เป็นอีกสองสิ่งที่ขาดไม่ได้เพื่อการทำงาน เมื่อถึงจุด ๆ หนึ่งผมเชื่อว่าช่างภาพหลาย ๆ ท่านย่อมมีประสงค์ที่จะยกระดับงานเพื่อหลาย ๆ ปัจจัย คอมคือหนึ่งในอุปกรณ์ที่ค่อนข้างที่จะสำคัญที่สุดแล้ว และราคาก็หลายหลายไปตามกำลังแรงในการทำงานของมันเอง แน่นอนที่สุดเลยว่าการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง แต่เพื่อการรองรับงานที่มีมูลค่ามากขึ้นแล้ว ถ้าเห็นมันมันค่อนข้างสมควร การผ่อนคือเป็นไปได้ และคงไม่กระทบกับการเงินมาก ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นเห็นผลที่ดีต่อการลงทุน (ทุกอย่างย่อมมีการลงทุน และทุกการลงทุนย่อมมีความเสี่ยง)

ให้ภาพมันเล่าเรื่อง เรื่องราวที่ดี ไม่จำเป็นต้องจดจ่ออยู่แค่สิ่ง ๆ เดียว 

หลายครั้งที่เราไปถ่ายงานต่าง ๆ เราจะจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ ซึ่งนั่นก็คือแบบ ซึ่งนั่นก็ถูกต้องแล้วครับ แต่ในบางครั้ง โดยเฉพาะถ้าเราต้องการที่จะสร้างเรื่องราว ยกระดับงาน ให้ภาพมันพูดเองได้ ผมมองว่าการเก็บภาพในรูปแบบการเล่าเรื่องก็เป็นสิ่งที่ดีไม่น้อยเลย เพราะมันคือการเก็บเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น สร้างความแปลกตา และเรื่องราวที่สร้างรอยยิ้มจากการดูภาพได้เป้นอย่างดี 

ถ่ายเผื่อแก้ กับเทคโนโลยีที่เป็นไปได้

หลายครั้งกับการเก็บภาพในจุดที่ใช่ แต่มุมอาจจะยังไม่ได้ ซึ่งสถานการณ์แบบนี้ก็สร้างความหงุดหงิดไม่น้อยแต่ไม่ต้องกังวลไปนะครับ เพราะเทคโนโลยีการตกแต่งภาพนั้นมาค่อนข้างไกล และสามารถสร้างความพึงพอใจได้แล้ว ขอเพียงให้ถ่าย ๆ มาแบบเหลือ ๆ พื้นที่ให้โปรมแกรมมีพื้นที่พอในการแก้ไขภาพหน่อย เพียงเท่านี้ความกังวลใจและหงุดหงิดก็จะหายไป ตึกเอียงก็แก้ได้ เรื่องขององศาภาพ ระนาบของภาพ ขอให้ถ่ายมาเหลือพื้นที่ออกมาสัก 10% - 25% เท่านี้ก็จะอุ่นใจ