เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานนี่เอง และแคนนอนก็บอกว่า EOS 5D Mark IV คือความภูมิใจของกล้องในซีรีส์ 5D เพราะโดดเด่นและเป็นที่นิยมในกลุ่มช่างภาพมืออาชีพ ไม่ว่างานไหนๆ ทั้งพรีเวดดิ้ง พอร์ตเทรต แลนด์สเคป สารคดี ช่างภาพต่างใช้กล้องตัวนี้ ด้วยว่า EOS 5D Mark IV ให้ภาพถ่ายคุณภาพสูงและตอบสนองการใช้งานที่หลากหลายได้ดีเยี่ยม

Canon 5D Mark IV เป็นกล้องฟูลเฟรมในตระกูล EOS ใช้เซ็นเซอร์ CMOS ให้ความละเอียดสูง 30.4 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับชิปประมวลผลภาพ DIGIC 6+ ช่วยให้ภาพออกมาคมชัดสมจริง มีระบบออโต้โฟกัส 61 จุด และแบบ Cross-Type 41 จุด ซึ่งใช้เทคโนโลยี Dual Pixel AF มาใช้ ช่วยให้จับภาพได้เร็วเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น

ถือว่าเป็นกล้องตัวแรกของแคนนอนที่สามารถถ่ายภาพด้วยไฟล์แบบ DPRAW (Dual Pixel RAW) ซึ่งทำให้ไฟล์มีความยืดหยุ่น สามารถปรับแก้ไขได้แต่ยังคงคุณภาพของการถ่ายภาพไว้ สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้เพราะมีเซ็นเซอร์วัดแสงแบบ 150,000-pixel RGB+IR เพื่อแสงที่สวยเป็นธรรมชาติ สามารถปรับความไวแสงได้ที่ ISO 100-32000 ขยายได้สูงถึง ISO 102400

มีความเร็วชัตเตอร์ไวสุดอยู่ที่ 1/8000 วินาที ใช้ถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องได้ 7 ภาพต่อวินาที และบันทึกวิดีโอระดับ 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที เลือกภาพความละเอียด 8.8 ล้านพิกเซลจากคลิปได้ ถือว่าเป็นจุดเด่นจากกลไลการทำงานชั้นเยี่ยมของ Mirror Box ที่ช่วยปรับปรุงเรื่องน๊อยซ์ (Noise) ที่เกิดขึ้นเมื่อถ่ายภาพด้วยความไวแสง ISO สูงๆ แถมแก้ไขความบิดเบี้ยวและขอบมืดที่เกิดจากเลนส์ได้ด้วยฟังก์ชั่น Digital Lens Optimizer (DLO) ในตัวกล้อง 

บอดี้ของกล้องผลิตจากแมกนีเซียมอัลลอยเกรดพรีเมียม ทำให้มีน้ำหนักเบาเพียง 800 กรัม มีคุณสมบัติกันละอองน้ำและกันฝุ่นได้ดี มีจอแสดงผลเป็น LCD แบบทัชสกรีนแบบเต็มฟังก์ชั่น ซึ่งเป็นกล้องรุ่นแรกในซีรีย์ EOS 5D ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านพิกเซล สามารถถ่ายภาพผ่านจอดังกล่าวได้ทันที และโฟกัสอัตโนมัติอย่างง่ายดาย เพราะโฟกัสพุ่งตรงไปยังวัตถุที่เลือกอย่างแม่นยำชัดเจน ทั้งในการถ่ายภาพนิ่งในโหมด Live View และการบันทึกแบบเคลื่อนไหว โดยครอบคลุมพื้นที่ถ่ายภาพถึง 80% ทั้งแนวตั้งและแนวนอน

ที่สำคัญ รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่าน Wi-Fi และ NFC บิวท์อิน รวมถึงมี GPS บอกตำแหน่งในตัวด้วย โดยสามารถตั้งค่าประหยัดแบตเตอรี่ในการเลือกรับสัญญาณ GPS เมื่อเปิดใช้งานกล้องเท่านั้นก็ได้ ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีช่องสำหรับใส่การ์ด CompactFlash กับ SD อย่างละ 1 ช่อง บวกกับพอร์ต USB 3.0 กับ HDMI ด้วย ทั้งยังใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนรุ่น LP-E6N ช่วยให้เก็บภาพได้มากถึง 900 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ส่วนในการถ่ายภาพแบบ Live View เก็บภาพได้มากถึง 300 ภาพ และยังสามารถใช้งานร่วมกับแบตเตอรี่กริป BG-E20 ได้ เพื่อให้ถ่ายภาพได้ยาวนานขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนแบตเตอรี่