หลายครั้งเรามักได้ยินคำพูดที่ว่า “ดวงตาคือหน้าต่างของหัวใจ” อาจจะฟังดูเชยไปซักหน่อย แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันจริงเอามากๆ โดยเฉพาะสำหรับช่างภาพมืออาชีพอย่างคุณคามิน เจริญสุข ที่ผ่านประสบการณ์ทำงานถ่ายภาพแนว Portrait มาแล้วนับไม่ถ้วน ได้สัมผัสมุมมองการบอกเล่าเรื่องราวในรูปแบบต่างๆ ของทั้งนายแบบและนางแบบมืออาชีพ รวมถึงบุคคลมีชื่อเสียงมากมาย ทำให้เห็นความสำคัญของการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านดวงตา ซึ่งคุณคามินก็เชื่อว่าดวงตานี่แหละคือสิ่งที่ช่วยทำให้ภาพถ่ายหนึ่งภาพมีพลัง เพราะเป็นองค์ประกอบแรกบนใบหน้าของแบบที่จะสามารถสื่อสารสิ่งที่ต้องการออกไป
โปรเจค “EYES TELL THINGS” ถือเป็น Solo Exhibition ครั้งแรกที่คุณคามินตั้งใจถ่ายทอดตัวตนและรสนิยมส่วนตัวลงบนภาพผลงาน โดยคุณคามินได้เล่าถึงมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับการถ่ายภาพแนว Portrait และสไตล์การทำงานที่ค่อนข้างเฉพาะตัวให้เราฟังว่า การถ่ายภาพ Portrait ขึ้นอยู่กับการทำงานร่วมกันของ 2 องค์ประกอบนั่นคือ “Subject” หรือ “แบบ” ที่ต้องมีพลังในการสื่อสารมากพอ กับมุมมองของ “ช่างภาพ” ว่ามองแบบออกมายังไง? ตีโจทย์ออกมาแบบไหน? แล้วมาเวิร์คไปพร้อมกัน เพื่อให้ระหว่างการทำงาน Synchronize กันมากที่สุด คุณคามินยังแอบกระซิบอีกว่าอยากถ่ายคุณลุงคนนี้มานานแล้ว เพราะชอบ Structure ของหุ่นที่มีความแปลก ชอบ Texture ผิว ชอบหนวดเครา บวกกับคอนเซ็ปต์ของงานที่ต้องการถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านดวงตาของแบบ ทำให้ดีเทลเหล่านี้ของคนแก่น่าจะช่วยเสริมให้การทำงานครั้งนี้ลงตัวมากขึ้น
ภาพรวมของ Exhibition เรียกได้ว่าเป็นส่วนผสมของความหลงใหลในงาน Surreal กับสไตล์การถ่ายภาพที่ให้น้ำหนักกับ Emotional มากกว่าเรื่อง Technical ภาพทั้งหมดถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยที่ Part แรกใช้วิธีเล่าแบบง่ายๆ คลีนๆ ปล่อยให้แบบมีการ Improvise กับกล้อง บวกกับการจัดแสงที่ดูผิดธรรมชาติเข้ามาช่วยเพิ่มมิติให้ภาพถ่ายดูน่าสนใจขึ้น ตัวอย่างเช่น แสงที่ครอปเฉพาะดวงตาหรือเส้นแสงที่พาดไปบนใบหน้า ส่วน Part หลังจะเพิ่มความดราม่าเข้าไป พยายามคุมธีมให้มีความ Western แนวหนังคาวบอยยุคคลาสสิกในแบบที่ตัวเองชอบ มีการใช้พร็อพ เช่น หมวก Fedora หรือเสื้อผ้าแนววินเทจเข้ามาช่วยคุมโทน
โดยไฮไลท์ของผลงาน Collection นี้จะอยู่ที่การบอกเล่าเรื่องราวผ่านดวงตา ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้ฟังก์ชัน Eye-Detection ของกล้อง Canon EOS R ที่รวดเร็ว แม่นยำ ช่วยจับโฟกัสดวงตาของแบบที่กำลังสื่อสารอารมณ์ต่างๆ ไว้ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดโฟกัส ทำให้การทำงานง่ายและประหยัดเวลามากขึ้น สามารถเอาเวลาไปโฟกัสที่เนื้องานจริงๆ เพื่อถ่ายทอดคอนเซ็ปต์ที่ต้องการสื่อสารได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้การที่จอของ EOS R สามารถพับ-หมุนได้ก็ทำให้การครีเอทมุมมองใหม่ๆ ทำได้ดียิ่งขึ้น ส่วนอีกเรื่องที่ชอบและเป็นเรื่องที่ Canon ไม่เคยทำให้ผิดหวังเลยก็คือ Skin Tone ถ่ายออกมาก็ยังสวยสมจริงเหมือนเดิม
เราถามถึงเหตุผลว่าทำไมช่างภาพ Portrait ถึงต้องเลือกกล้อง Canon EOS R ? คุณคามินปิดท้ายสั้นๆ ว่า… “ผมเชื่อว่าการที่ Canon จะปล่อยอะไรออกมาซักอย่าง ต้องมั่นใจแล้วว่ามันดีที่สุดจริงๆ พอได้ลองทำงานกับกล้อง Canon EOS R ยิ่งทำให้มั่นใจครับว่าเป็นกล้องที่ผมไว้ใจได้”