สวัสดีครับพบกันอีกครั้ง  วันนี้กำลังมองหาภาพขาวดำและจะไม่พูดถึงภาพสี แต่เราจะพูดถึง “ โทน ” ของภาพขาวดำ ซึ้งเป็นตัวหัวใจของการสร้างภาพขาวดำ กล่าวคือ ภาพขาวดำนั้นประกอบขึ้นด้วยโทนแสงจากส่วนมือหรือดำสุด ไปจนถึงส่วนที่สว่างที่สุด และโทนใดๆ ที่อยู่ระหว่างช่วงดำสุดนั้นจะเรียกว่าค่าโทนเทากลาง หรือเทากลาง 18% หลายท่านอาจสงสัยว่าทำมัยต้อง 18% คำอธิบายมีอยู่ว่า แสงที่เดินทางจากแหล่งกำเนิดแสง เดินทางไปกระทบกับวัตถุ แล้วสะท้อนกลับมาที่ตาเรามองเห็น และแสงที่สะท้อนกลับมาให้ตาเรามองเห็นมันสะท้อนกลับมาแค่ 18% เราจึงเรียกว่าเทากลาง 18% ดังนั้นภาพของวัตถุต่างๆ หรือองค์ประกอบในภาพที่ปรากฏแสงสีต่างๆ เมื่อเป็นภาพขาวดำจะกลายเป็นโทนของภาพขาวดำที่มีระดับแตกต่างกันออกไป

“ แล้วจากโทนมืดสุดถึงสว่างสุด สามารถแบ่งออกเป็นกี่โทน ” มีทฤษฎีการแบ่งโทนภาพขาวดำของ แอนเซล อดัม ( Ansel Adams ) ช่างภาพขาวดำที่ได้รับการยอมรับ ในระดับโลก ด้วยการแบ่งโทนภาพขาวดำ จากดำสุดถึงขาวสุด ออกเป็น 11 ส่วน และยังสามารถใช้อ่างอิงกับระบบการวัดแสง เรียกว่า Zone System โดยหลักการแบ่งโทนของขาวดำออกเป็นโซนต่างๆ และอธิบายการสร้างภาพขาวดำ ให้ออกเป็นตัวเลข ทำให้เข้าใจง่ายจนกลายเป็นองค์ความรู้ ที่ได้รับการยอมรับในหมู่นักถ่ายภาพขาวดำทั่วโลก และใช้เป็นหลักอ้างอิงจนถึงปัจจุบัน

ความเข้มของภาพ การเน้นสีอาจดึงความสนใจไปจากจุดเด่นของภาพ ถ้าสิ่งที่เน้นไม่ใช่จุดเด่นหลัก รูปภาพขาวดำจะไม่มีบริบทของสีหรืออารมณ์มาเกี่ยวข้อง เมื่อไม่มีสีแล้ว แน่นอนว่าจุดมุ่งเน้นจะไปอยู่ที่รายละเอียดองค์ประกอบซึ่งมักถูกบดบังด้วยสีสัน คอนทราสต์ที่ชัดเจนและความสว่างที่ค่อย ๆ ลดลงบริเวณขอบภาพสามารถเนรมิตภาพถ่ายที่น่าทึ่งได้

แง่มุมความรู้ สไตล์สีขาวดำเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เข้าใจภาพทั้งภาพ ช่วยให้รู้คอนเซ็ปต์ของจุดเด่น รายละเอียดเงา การปรับคอนทราสต์ภาพ การหาค่าการรับแสงมากน้อย รวมถึงการถ่ายภาพให้ได้ช่วงความมืดความสว่างที่เหมาะสม (กว้างขึ้นเมื่อคอนทราสต์มากขึ้น หรือแคบลงเมื่อมีการจำกัดระหว่างค่าความสว่างสูงสุดและความมืดสูงสุด)

ความน่าหลงใหลในสีขาวดำ หลายคนคิดว่าภาพถ่ายขาวดำให้ลักษณ์ถึงกาลเวลา ที่ชวนให้นึกถึงอดีต ทั้งยังสื่อความคิดออกมาได้อย่างดีเมื่อเวลาไม่ใช่สิ่งสำคัญในรูปภาพ เช่น สีเป็นตัวช่วยประมาณระยะเวลา สีแดงและสีเหลืองเปรียบเปรยถึงฤดูใบไม้ร่วง และแสงสีทองที่พาดผ่านท้องฟ้ายามหรือเช้าและพลบค่ำ การนำสีออกไปจึงทำให้ภาพอยู่เหนือกาลเวลา

นอกจากนี้ คนส่วนใหญ่เราไม่มองเห็นเป็นสีขาวดำ (ภาวะตาบอดทุกสี) ซึ่งหมายความว่าโลกที่แสดงออกมาเป็นสีขาวดำนั้นน่ามองมากขึ้น ทำให้เราหยุดแล้วมองใกล้ ๆ และจดจ่ออยู่ที่เส้น รูปร่าง และแสงในภาพ

ดังนั้นการได้ภาพขาวดำดีๆ จึงไม่ใช่เรื่องที่สรุปไปว่า เป็นภาพที่สมบูรณ์สวยงามจากภาพสี แล้วจะกลายมาเป็นภาพขาวดำที่ดีได้เสมอไป แต่การได้ภาพขาวดำระดับคุณภาพ เราจึงต้องเลือกสภาพแสงที่เหมาะสม โดยสภาพแสงที่เหมาะกับการถ่ายขาวดำ จะต้องมีสภาพแสงที่ให้ช่วงของการไล่โทนที่กว้าง คือมีส่วนมืด ส่วนสว่าง เพื่อให้ภาพดูมีมิติ การประสบความสำเร็จในการถ่ายภาพขาวดำ จึงต้องเริ่มต้นการมองทุกอย่างเป็นขาวดำ เหมือนตอนที่เราดูทีวีขาวดำ หรือเริ่มต้นง่ายๆ เอาแม่สีบนกระดาษนำไปถ่ายเอกสารออกมาเป็นขาวดำ แล้วทำเทียบเคียงกับแม่สีอีก เราจะรู้ว่าแต่ละสีจะมีน้ำหนักของโทนขาวดำมากน้อยแค่ไหน เห็นสีเขียว สีแดง สีนำเงิน สีเหลือง ฯลฯ มีโทนเทาแค่ไหน ทำจนชินทีนี้ตอนถ่ายภาพเราก็จะสามารถจินตนาการถึงความต่างของโทนที่อยู่ในช่องมองภาพของเรา

การมองภาพอย่างขาวดำ ภาพทิวทัศน์ ที่ดูท้องฟ้าสดใส กับทิวเขาเบื้องล่างเป็นเขียวสดใส หากปรับไปภาพขาวดำ มันกลับกลายว่า ไม่ได้เป็นภาพที่สวยงามน่าสนใจเท่าไหร่นัก ในทางกลับกันหากทิวทัศน์ขณะนั้นอยู่ในช่วงครึ้มฟ้าครึ้มฝน เมื่อปรับเป็นขาวดำกลับให้ภาพที่น่าสนใจกว่าที่คิด เหมือนตัวอย่างในภาพนี้ กับเมฆฝนบนท้องฟ้าที่มีทั้งเมฆขาวและเมฆดำ เมื่อปรับเป็นภาพขาวดำ พบว่าน่าสนใจกว่าการให้เป็นภาพสีโดยปกติ

ปัจจัยในเรื่องของการเลือกทิศทางแสง สามารถช่วยเสริมภาพขาวดำของคุณให้ออกมาดูน่าสนใจเช่นกัน โดยทิศทางแสงจากด้านข้าง จะช่วยขับเน้นความเปรียบต่างและเผยให้เห็น
รายละเอียดพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นภาพทิวทัศน์ ภาพโคลสอัพ ดังนั้นช่วงเวลาช้าเตรู่ และช่วงบ่ายถึงเย็นจะเป็นช่วงเวลาดีที่สุดในการบันทึกภาพ ในทางตรงข้ามแสงช่วงเที่ยวตรงหรือ
แสงเหนือศีรษะที่มีความเข้มสูงมักจะปิดบังพื้นผิวและรูปทรงทำให้ภาพขาวดำที่ออกมาดูแบนไร้มิติ ภาพขาดความน่าสนใจ

 

นอกจากนี้ แสงด้านข้างยังเหมาะแก่การถ่ายภาพบุคคลขาวดำ เพราะจะช่วยขับเน้นรูปร่างหน้าตา โทนผิวของแบบให้เด่นชัด และยังสร้างอารมณ์ของภาพให้แตกต่างกันได้อีกด้วย เช่น หากต้องการโทนแสงจัด ทำได้กำหนดแสงผ่านลงมา ยังแบบโดยไม่ต้องผ่านการกรองแสงพร้อมกับให้ฉากเป็นสีดำ ภาพที่ออกมาก็จะมีโทนต่างกันระหว่างตัวแบบกับฉากหลัง ซึ่งวิธีนี้แบบจะดูโดดเด่น ขณะ เดียวกันหากต้องการให้ภาพดูนุ่มนวล ความเปรียบต่างต่ำมีโทนที่ใกล้เคียงกัน เปลี่ยนมา ใช้ฉากหลังสีขาว และหาอุปกรณ์เช่น ม่านสีขาว แผ่นกรองแสง มากรองแสงไว้อีกชั้นหนึ่ง