ระหว่างการเดินทางกับวิถีชิวิตชาวบ้านด้วย Canon EOS R
โดย คุณ พรศักดิ์ ณ นคร

 

ราวกลางเดือนตุลาคม ปี 2561 หลังฤดูน้ำหลากผ่านพ้น น้ำในแม่น้ำน่านกลับสู่ภาวะปกติอย่างที่ควรจะเป็นในสายของวันนั้น ผมเริ่มต้นออกเดินทางอีกครั้ง หลังจากรอนแรมไปนอนนับดาว ชมสายหมอก ผ่านขุนเขาในจังหวัดน่านมาเสียหลายวันหลายคืน จนมาถึงอำเภอท่าวังผาในยามสายของเมื่อวานนี้ สำหรับจุดหมายปลายทางของผมในวันนี้ มีระยะทางห่างจากอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ไปราวเกือบ 80 กิโลเมตร โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 1148 มุ่งหน้าไปยังภูลังกา ในอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา

 

เมื่อขับรถมาได้ราว 10 นาที ก่อนที่เส้นทางจะพาเราผ่านสะพานข้ามแม่น้ำน่าน ผมสังเกตุเห็นชาวบ้านหลายคนกำลังสาละวนง่วนอยู่กับการขุดดินหว่านเมล็ดอะไรกันซักอย่าง จึงตัดสินใจจอดรถแล้วเดินไปบนสะพาน ตั้งใจจะหามุมถ่ายภาพจากด้านบนเพียงแค่นั้นเพราะต้องรีบเดินทางต่อ เมื่อถ่ายไปราว 2-3 ภาพ ผมเลยตะโกนถามลงไปด้านล่างว่าปลูกอะไรกัน ชาวบ้านตะโกนตอบกลับมาว่า “ปลูกถั่วลิสง” เท่านั้นแหละ พลันความคิดก็เปลี่ยน เพียงไม่กี่อึดใจผมก็เผ่นแผลวลงไปสู่พื้นดินด้านล่างในบัดดลด้วยความรวดเร็ว

 

แดดราวๆ 11 โมงเช้า ร้อนเปรี้ยงแทบจะตรงหัว แถมมุมที่ยืนถ่ายรูปก็ย้อนแสงซะเต็มประตู แต่ไหนๆ ก็ลงมาแล้วก็ต้องลองกันซักยก ผมวางมุมกล้องไว้เรี่ยๆ พื้น เพราะดูจากฉากหลังแล้วเป็นป่าละเมาะทึบๆ ดูไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่นัก อยากให้คนเด่นออกมาจากฉากหลังหน่อย ก็เลยวางมุมกล้องไว้ต่ำ เอาฟ้าและเมฆเป็นฉากหลัง ซึ่งวันนั้นเมฆก็ช่างจะเป็นใจ ทำให้ฉากหลังไม่โล่งจนเกินไปนัก

 

มุมแบบนี้ จอ LCD หลังกล้องที่พับหมุนออกด้านข้างได้และมีทัชสกรีนบนจอ อย่าง EOS R มีประโยชน์อย่างมาก ตั้งแต่ใช้กล้องตัวนี้มา เรียกได้ว่าแทบจะ 95% ผมใช้แต่จอ LCD หลังกล้องในการถ่ายงาน แทบไม่ค่อยมองช่องมองภาพเอาเลยซะด้วยซ้ำ ใช้จนติดเพราะมันใหญ่กว่า มองสะดวกกว่า แถมชัดกว่า บางทีก็พาลให้นึกไปถึงกล้องจำพวก Medium Format ในยุคฟิล์ม ที่ต้องมอง Waist Level ในการถ่าย อารมณ์มันจะคล้ายๆ กัน แต่กล้องดิจิตอลมันวางระดับกล้องได้ต่ำกว่าและสูงกว่า ใช้แรกๆ นี่ต้องฝึกตั้งระนาบอยู่พอสมควรเลย

 

สำหรับสภาพแสงก่อนเที่ยงแถมย้อนแสงแบบวันนี้ จอ LCD มันสู้แสงได้ไม่ค่อยดีนัก ทำให้เราดูไม่ออกว่ามันจะโอเวอร์หรืออันเดอร์ไปแค่ไหน วิธีแก้ก็คือ ก่อนถ่ายจริงเราก็มองในช่องมองภาพเสียก่อน ปรับรูรับแสง ปรับสปีด ให้ได้ค่าที่เราต้องการ ภาพที่มองเห็นในช่องมองภาพของ EOS R นั้น มันสามารถปรับเปลี่ยนไปตามค่าที่เรากำหนด จะปรับให้มันพอดี จะมืดหรือจะสว่างแค่ไหนมันก็แสดงผลให้เห็นชัดๆ กันไปเลย ไม่ต่างจากจอ LCD หลังกล้อง เมื่อปรับเสร็จแล้ว ก็กลับมาใช้จอ LCD ถ่ายเหมือนเดิม เพราะทิศทางและค่าแสงไม่ได้เปลี่ยนแปลง หากเราถ่ายอยู่ในตำแหน่งเดิม

 

ภาพเซ็ตนี้ผมใช้เวลาในการถ่ายประมาณ 15 -20 นาที ราวๆ นั้น คิดเอาไว้ว่าจะทำเป็นขาวดำ เพราะช่วงเวลาที่ถ่ายหากเป็นภาพสี คงไม่ได้ภาพที่ประทับใจนัก

 

ภาพวิถีชีวิตริมทางที่พบเจอในระหว่างการเดินทาง นำมาฝากกันครับ
 

Canon EOS R + RF 24-105 F4 L IS USM, f8, 1/250, ISO 100

 

Canon EOS R + RF 24-105 F4 L IS USM, f6.3, 1/500, ISO100

 

Canon EOS R + RF 24-105 F4 L IS USM, f6.3, 1/500, ISO100

 


Canon EOS R + RF 24-105 F4 L IS USM, f6.3, 1/500, ISO100

 

Canon EOS R + RF 24-105 F4 L IS USM, f6.3, 1/640, ISO100

 

Canon EOS R + RF 24-105 F4 L IS USM, f8, 1/500, ISO100

 


Canon EOS R + RF 24-105 F4 L IS USM, f8, 1/320, ISO100

 

สามารถติดตามการเดินทางและผลงานจากคุณพรศักดิ์ ณ นคร ได้ที่ :
www.facebook.com/pornsak.nanakorn
www.pornsaknanakorn.com 

และยังสามารถติดตามข่าวสารดีๆ ได้ที่เพจ Canon EOS R Thailand : 
www.facebook.com/CanonEOSRThailand